เราเชื่อว่านักลงทุนหลายท่านเข้ามาในตลาดหุ้นเพราะต้องการสร้างเงินให้งอกเงยโดยส่วนใหญ่จะมีวิธีลงทุนแบบ VI ซื้อเพราะพื้นฐานแล้วรอปันผล แต่พออยู่นานๆก็เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจเพราะหุ้นที่เราถืออยู่นั้นขึ้นไม่ทันใจเราสักเท่าไหร่หรืออาจจะตกลงมากในบางครั้ง พอเห็นคนอื่นได้กำไรจากหุ้นปั่นมาหลายสิบ % ภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ทำให้ต่อมความโลภเริ่มทำงาน จากที่เคยเป็นมนุษย์หลักการแบบ VI ก็ผันตนเองกลายเป็นนักเก็งกำไรไปโดยอัตโนมัติ จะให้ทำยังไงได้หละก็หุ้นมันขึ้นเย้ายวนชวนให้กดปุ่ม MP ซะขนาดนี้ (MP= Market Price เป็นการซื้อหุ้น ณ ราคาตลาด)
นักลงทุนที่คิดว่าตนเองเป็น VI บางท่านอาจจะยอมรับไม่ได้ว่าตนเองกลายเป็นนักเก็งกำไรไปแล้ว โดยหลอกตนเองว่าหุ้นปั่นที่ติดดอยอยู่เมื่อกี้นี้เดี๋ยวมันก็มารับเราอีกรอบเพราะคราวที่แล้วก็เล่นแบบนี้(เริ่มเข้าสู่โหมดปลอบใจตนเอง) แต่บังเอิญเป็นการเก็งกำไรรอบสุดท้ายพอดีเป๊ะ ก็เลยปล่อยให้เราหนาวตายอยู่ข้างบน หลังจากที่ติดหุ้นปั่นสักพักก็เริ่มมองหาพื้นฐานของหุ้นปั่นที่เราดอยอยู่ว่าทำธุรกิจอะไร จ่ายปันผลรึเปล่า(คิดว่าติดหุ้นแล้วมีปันผลก็ยังดีวะ) เริ่มอ่านงบการเงินของหุ้นตัวนั้นมากขึ้น เริ่มหาข่าวของหุ้นปั่นตัวนั้นมากขึ้น เมื่อมีข่าวดีขึ้นหน่อยก็ใจชื้นว่าอีกเดี๋ยวมันก็กลับมา แต่สุดท้ายราคาก็ไหลลงมาแบบกู่ไม่กลับ แล้วเราก็ทำใจคัทไม่ไ้ด้ก็ยอมทนติดหุ้นปั่นเหล่านั้นต่อไป
เราขอให้กลยุทธ์การลงทุนแบบนี้ว่า "ลงทุนแบบเก็งกำไรแล้วขายหุ้นแบบ VI"
ติดหุ้นปั่น ==> ไม่กล้าคัท ==> มองหาพื้นฐานหุ้นปั่น ==> มีหุ้นปั่นประดับพอร์ตไปอีกนาน
จากประสบการณ์ที่เคยผ่านสนามรบแบบนี้มาก่อนขอแนะนำอย่างเดียวว่า "คัทลอส" เท่านั้น ถ้าหุ้นตัวไหนที่เราต้องการเล่นเก็งกำไรอย่างแท้จริง ควรมีจุดตัดสินใจให้ชัดเจน ไม่โลเล อารมณ์ตอนคัทลอสหุ้นเหมือนการบีบสิวอักเสบ ทนเจ็บให้หัวสิวหลุดมากระแทกกระจกดังเป๊ะ เลือดไหลแป๊บเดียวสิวก็ยุบละ ในกรณีถ้าคัทแล้วเด้งก็ถือว่าทำใจซะเพราะเป็นเรื่องปกติที่คนอื่นก็เจอเหมือนกัน ไม่เฉพาะคุณคนเดียวที่เป็นแบบนี้ แต่ถ้าคัทแล้วลงต่อเราก็จะสบายใจว่า "ดีนะเนี้ยที่คัทไปไม่งั้นโดยเยอะกว่านี้แน่นอน" เราเชื่อว่ามีหลากหลายอารมณ์ก่อนที่จะคัทหุ้นเน่า แต่ขอให้คิดไว้อย่างนึงว่าเหลือเศษเงินไว้เพื่อรอโอกาสต่อไปก็ยังดีกว่าสูญเงินไปเกือบทั้งหมด
สรุปว่าถ้าคิดจะเล่นหุ้นเก็งกำไรก็ควรมีจุดคัทลอสไว้ล่วงหน้าว่าลงมากี่ %แล้วเลิกเล่น ส่วนตัวใช้ติดลบ 10-15% หรือถ้าบางตัวลงมาเป็นแนวโน้มก็จะตัดใจเมื่อหลุดเส้น 200 วันลงมา(เส้นแนวโน้มระยะยาวแบบรายวัน) ก็แล้วแต่นโยบายการเก็งกำไรของแต่ละคนที่อาจจะดู MACD RSI หรืออีกสารพัดเครื่องมือประกอบด้วยก็ได้ (แต่ถ้าใช้เครื่องมือมากเกินไปก็อาจจะส่งสัญญาณสวนทางกันก็ได้) ถ้าทำไม่ได้แบบนี้ขอให้เก็บเงินไว้รอให้เงินเฟ้อกัดกินเงินคุณน่าจะเสียหายน้อยกว่าเสียเงินจากหุ้นปั่นนะจ๊ะ
วิธีเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร
==> จุดคัทลอสสำคัญที่สุด
สมมติเราสร้างกลยุทธ์เล่นหุ้นเก็งกำไรที่วางไว้อย่างสวยงาม คือ
- ถ้าหุ้นตกลงมาจากทุน 10% แล้วจะคัทลอส
- หรือถ้าหุ้นขึ้น10% ก็จะขายทำกำไร
- หรือว่าขึ้นมา 10% กับ 15% ก็จะทะยอยขายทำกำไรเป็นค่าขนมบ้าง
กราฟ COLOR-W1
หมดอายุวันที่ 16/06/16
พอเราเห็นราคาตัวนี้แล้วสุดยอดมาก ขึ้นมายั่วอารมณ์ทุกวัน ราคาตัวนี้ขึ้นมาจาก 0.4-0.5 แล้วขึ้นสูงสุดที่ 1.13 อารมณ์ตอนเห็นหุ้นตกแบบนี้ก็คิดว่า "รู้งี้...ถ้าขึ้นไปได้สัก 10%-15% แล้วทะยอยเก็บกำไรไว้บ้างก็น่าจะดี" ไม่มีใครตอบได้ว่าการเก็งกำไรจะไปถึงจุดไหน มีแต่ว่าเราจะหยุดเองที่ราคาเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะมีผู้กล้ามากมายนอนหนาวอยู่แถวนั้นถ้าไม่มีจุดคัทลอส สุดท้ายก็อาจจะด่าว่าหุ้นมันไม่ดี @&$%# ฮืมมมม แต่อย่าลืมซิจ๊ะว่าใครกันที่เป็นคนเลือกหุ้น
==> ดูวันหมดอายุของ Warrant
การเก็งกำไร Warrant ควรดูวันหมดอายุของ Warrant นั้นว่าหมดอายุวันที่เท่าไหร่ ปกติแล้วจะหยุดเทรด 1 เดือนก่อนวันที่ประกาศหมดอายุ เช่น ประกาศว่าวันหมดอายุวันที่ 7 /03/14 ก็จะขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดเทรดวันที่ 7/02/14 ซึ่งช่วงนี้มีแต่ Warrant ขึ้นกันแบบยั่วน้ำลายสิงห์เดย์เทรด เมื่อ 2 สัปดากห์ก่อนก็มีขึ้นกันเป็น 1,400% ใครไม่กล้าก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆและอิจฉาคนที่ได้เงิน (แต่ก็อาจจะมีบางคนเสียเงินเพราะขายไม่ทัน) หุ้นที่ว่านี้คือ AMC-W1 ที่พึ่งหมดอายุไป
กราฟหุ้น AMC-W1 (ขึ้น 1,400%)
หมดอายุวันที่ 7/03/14
น้องที่ทำงานเรียกให้ดูหุ้นตัวนี้ในวันที่ขึ้นเป็น 1,400% นั่นแหละ ราคาที่เห็นครั้งแรกที่ 0.08 บาทก็เลยเปิดกราฟดูว่าราคาเปิดที่ 0.03 เล่นราคากันจนถึง 0.46 บาท แล้วลงมาปิดที่ .028 เราเห็นแล้วหวาดเสียวแทนว่าถ้าขายไม่ทันก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP แล้วจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าหลังจากวันขึ้น SP ก็มีสองวิธีให้นักลงทุนเลือก คือ จะใช้สิทธิ์ก็เสียเงินเพื่อซื้อหุ้นแม่ คือ AMC หรือไม่ใ้ช้สิทธิ์ Warrant ก็ปล่อยให้เงินตรงนั้นเป็นศูนย์
==> ศึกษานิสัยของหุ้นเก็งกำไร
หุ้นแต่ละตัวก็มีนิสัยเหมือนคนเรานั่นแหละ
- บางตัวจำศีลนานมาก(sideway เป็นช่วงเวลาเก็บหุ้น) แต่บทจะมาก็ขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 วันถึงจะเลิกเล่น
- บางตัวอาจจะมา 1-2 วันแล้วพักแป๊บนึงแล้วจะมาแรงๆอีกครั้ง
- บางตัวแนวโหดลากขึ้น ตบลง แล้วก็ลากขึ้น ตบลงอีกครั้ง
กราฟ NMG-W3 (ช่วงเก็บหุ้น)
หมดอายุวันที่ 19/06/18
ถ้าเราไม่อยากเหนื่อยจากการตามหุ้นที่วิ่งไปแล้วก็หันมามองตัวที่อยู่นิ่งๆแล้วรอมันวิ่งน่าจะอุ่นใจกว่า จากการที่ช่วงนี้เห็น Warrant วิ่งกันสนุกสนานก็ออกตามหาตัวที่ยังนิ่งๆอยู่ก็เจอตัวนี้ NMG-W3 ที่ sideway มานานละ MACD ก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนWarrant หลายตัววิ่งไปไกลจนเราไม่กล้าวิ่งตามก็อาจจะดูหุ้นที่มีลักษณะ sideway แบบนี้ก็ได้ อาจจะคาดหวังแค่ 0.51 หรือ 0.63 ที่เป็นแนวต้านสีเขียว( เส้น 75 วัน)กับสีแดง(เส้น 200 วัน) แต่ก็แอบหวังไปที่แนวต้านเดิมที่ 0.80 ก็อิ่มกันหละทีนี้ ประเด็น คือ เราจะประมาทไม่ได้ถ้าหุ้น sideway หลุดลงมาก็ควรตั้งจุดคัทไว้ด้วยว่ากี่ % คัททิ้ง ส่วนตัวมองว่าถ้าต่ำกว่า 0.42 ก็คัทเพราะหลุดกรอบ BB กรอบบนแล้วไม่น่าจะสนุกแล้วหละ
กราฟหุ้น TASCO-W3 (ที่ไม่ควรนับ 3)
หมดอายุวันที่ 17/04/14
กราฟ FOCUS-W1(หุ้นขาโหด)
หมดอายุวันที่ 15/06/14
เห็นกราฟน่ากลัวแบบนี้ การวิ่งขึ้นลงภายในวันมันน่ากลัวกว่านั้น ซึ่งมีทั้งเขียว เหลือง แดง ภายในวันเดียว จำได้ว่าตอนที่ถูกดึงราคาขึ้นไปสูงๆแล้วถูกทุบลงมา ช่อง Bid หายไปหลายช่องเหมือนว่าแย่งกันขายทุกราคาก็จะยิ่งทำให้ราคาลงเร็วกว่าเดิม อะนะ!! การลงทุนจริงหรือนี่ เฮ้อออออ
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวที่เป็นบางส่วนของประสบการณ์ ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับในแบบที่แตกต่างกันไป เขียนขึ้นเพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
บทความน่าสนใจ
วิธีเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร ตอนที่ 2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น