วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วิธีเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร ตอนที่ 1/2


เราเชื่อว่านักลงทุนหลายท่านเข้ามาในตลาดหุ้นเพราะต้องการสร้างเงินให้งอกเงยโดยส่วนใหญ่จะมีวิธีลงทุนแบบ VI ซื้อเพราะพื้นฐานแล้วรอปันผล แต่พออยู่นานๆก็เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจเพราะหุ้นที่เราถืออยู่นั้นขึ้นไม่ทันใจเราสักเท่าไหร่หรืออาจจะตกลงมากในบางครั้ง พอเห็นคนอื่นได้กำไรจากหุ้นปั่นมาหลายสิบ % ภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ทำให้ต่อมความโลภเริ่มทำงาน จากที่เคยเป็นมนุษย์หลักการแบบ VI ก็ผันตนเองกลายเป็นนักเก็งกำไรไปโดยอัตโนมัติ จะให้ทำยังไงได้หละก็หุ้นมันขึ้นเย้ายวนชวนให้กดปุ่ม MP ซะขนาดนี้ (MP= Market Price เป็นการซื้อหุ้น ณ ราคาตลาด)

นักลงทุนที่คิดว่าตนเองเป็น VI บางท่านอาจจะยอมรับไม่ได้ว่าตนเองกลายเป็นนักเก็งกำไรไปแล้ว โดยหลอกตนเองว่าหุ้นปั่นที่ติดดอยอยู่เมื่อกี้นี้เดี๋ยวมันก็มารับเราอีกรอบเพราะคราวที่แล้วก็เล่นแบบนี้(เริ่มเข้าสู่โหมดปลอบใจตนเอง) แต่บังเอิญเป็นการเก็งกำไรรอบสุดท้ายพอดีเป๊ะ ก็เลยปล่อยให้เราหนาวตายอยู่ข้างบน หลังจากที่ติดหุ้นปั่นสักพักก็เริ่มมองหาพื้นฐานของหุ้นปั่นที่เราดอยอยู่ว่าทำธุรกิจอะไร จ่ายปันผลรึเปล่า(คิดว่าติดหุ้นแล้วมีปันผลก็ยังดีวะ) เริ่มอ่านงบการเงินของหุ้นตัวนั้นมากขึ้น เริ่มหาข่าวของหุ้นปั่นตัวนั้นมากขึ้น เมื่อมีข่าวดีขึ้นหน่อยก็ใจชื้นว่าอีกเดี๋ยวมันก็กลับมา แต่สุดท้ายราคาก็ไหลลงมาแบบกู่ไม่กลับ แล้วเราก็ทำใจคัทไม่ไ้ด้ก็ยอมทนติดหุ้นปั่นเหล่านั้นต่อไป

เราขอให้กลยุทธ์การลงทุนแบบนี้ว่า "ลงทุนแบบเก็งกำไรแล้วขายหุ้นแบบ VI"

ติดหุ้นปั่น ==> ไม่กล้าคัท ==> มองหาพื้นฐานหุ้นปั่น ==> มีหุ้นปั่นประดับพอร์ตไปอีกนาน

จากประสบการณ์ที่เคยผ่านสนามรบแบบนี้มาก่อนขอแนะนำอย่างเดียวว่า "คัทลอส" เท่านั้น ถ้าหุ้นตัวไหนที่เราต้องการเล่นเก็งกำไรอย่างแท้จริง ควรมีจุดตัดสินใจให้ชัดเจน ไม่โลเล อารมณ์ตอนคัทลอสหุ้นเหมือนการบีบสิวอักเสบ ทนเจ็บให้หัวสิวหลุดมากระแทกกระจกดังเป๊ะ เลือดไหลแป๊บเดียวสิวก็ยุบละ ในกรณีถ้าคัทแล้วเด้งก็ถือว่าทำใจซะเพราะเป็นเรื่องปกติที่คนอื่นก็เจอเหมือนกัน ไม่เฉพาะคุณคนเดียวที่เป็นแบบนี้ แต่ถ้าคัทแล้วลงต่อเราก็จะสบายใจว่า "ดีนะเนี้ยที่คัทไปไม่งั้นโดยเยอะกว่านี้แน่นอน" เราเชื่อว่ามีหลากหลายอารมณ์ก่อนที่จะคัทหุ้นเน่า แต่ขอให้คิดไว้อย่างนึงว่าเหลือเศษเงินไว้เพื่อรอโอกาสต่อไปก็ยังดีกว่าสูญเงินไปเกือบทั้งหมด

สรุปว่าถ้าคิดจะเล่นหุ้นเก็งกำไรก็ควรมีจุดคัทลอสไว้ล่วงหน้าว่าลงมากี่ %แล้วเลิกเล่น ส่วนตัวใช้ติดลบ 10-15% หรือถ้าบางตัวลงมาเป็นแนวโน้มก็จะตัดใจเมื่อหลุดเส้น 200 วันลงมา(เส้นแนวโน้มระยะยาวแบบรายวัน) ก็แล้วแต่นโยบายการเก็งกำไรของแต่ละคนที่อาจจะดู MACD RSI หรืออีกสารพัดเครื่องมือประกอบด้วยก็ได้ (แต่ถ้าใช้เครื่องมือมากเกินไปก็อาจจะส่งสัญญาณสวนทางกันก็ได้) ถ้าทำไม่ได้แบบนี้ขอให้เก็บเงินไว้รอให้เงินเฟ้อกัดกินเงินคุณน่าจะเสียหายน้อยกว่าเสียเงินจากหุ้นปั่นนะจ๊ะ

วิธีเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร

==> จุดคัทลอสสำคัญที่สุด

สมมติเราสร้างกลยุทธ์เล่นหุ้นเก็งกำไรที่วางไว้อย่างสวยงาม คือ
  • ถ้าหุ้นตกลงมาจากทุน 10% แล้วจะคัทลอส
  • หรือถ้าหุ้นขึ้น10% ก็จะขายทำกำไร 
  • หรือว่าขึ้นมา 10% กับ 15% ก็จะทะยอยขายทำกำไรเป็นค่าขนมบ้าง
หลังจากที่นั่งมองกราฟก็เห็นว่าหุ้นราคาขึ้นดีจัง กราฟสวยจนมองว่าราคาก็น่าจะไปได้อีก จึงตัดสินใจ Let Profit Run กลยุทธ์ทีีเคยวางไว้ก็ถูกอารมณ์ "ขอกำไรอีกนิดนะ" เข้ามาแทนที่ สรุปว่าไม่ขายแล้วก็นั่งมองหุ้นขึ้นอย่างมีความสุข แต่บังเอิญปวดฉี่ก็ลุกไปเข้าหุ้องน้ำ กลับมาที่โต๊ะเทรดถึงกับอ้าปากค้าง โอ้วววแม่เจ้า!!! ทำไมถึงรวดเร็วแบบนี้หละ หุ้นปั่นตัวนึงในพอร์ตที่เขียวกว่า 20% มันหายไปไหน รีบโทรหามาร์เก็ตติ้งประจำตัวด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า "COLOR-W1 เป็นอะไรทำไมถึงลงหนักแบบนี้หละ" มาร์ก็ตอบกลับมาด้วยความสัตย์จริงว่า "COLOR-W1 เป็นหุ้นเก็งกำไรไงคะ" มาร์คงงงแหละว่าตอนซื้อไม่ถามว่าทำไมหุ้นถึงขึ้นจัง แต่พอตอนลงกลับมาหาเหตุผล ซึ่งเหตุผลเดียวของการเก็งกำไร คือ ความโลภ ควรทำใจยอมรับและโลภแต่พองาม มิฉะนั้นอาจจะไม่มีเงินเหลือซื้อข้าวกิน

กราฟ COLOR-W1 
หมดอายุวันที่ 16/06/16


พอเราเห็นราคาตัวนี้แล้วสุดยอดมาก ขึ้นมายั่วอารมณ์ทุกวัน ราคาตัวนี้ขึ้นมาจาก 0.4-0.5 แล้วขึ้นสูงสุดที่ 1.13 อารมณ์ตอนเห็นหุ้นตกแบบนี้ก็คิดว่า "รู้งี้...ถ้าขึ้นไปได้สัก 10%-15% แล้วทะยอยเก็บกำไรไว้บ้างก็น่าจะดี" ไม่มีใครตอบได้ว่าการเก็งกำไรจะไปถึงจุดไหน มีแต่ว่าเราจะหยุดเองที่ราคาเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะมีผู้กล้ามากมายนอนหนาวอยู่แถวนั้นถ้าไม่มีจุดคัทลอส สุดท้ายก็อาจจะด่าว่าหุ้นมันไม่ดี @&$%# ฮืมมมม แต่อย่าลืมซิจ๊ะว่าใครกันที่เป็นคนเลือกหุ้น

==> ดูวันหมดอายุของ Warrant 

การเก็งกำไร Warrant ควรดูวันหมดอายุของ Warrant นั้นว่าหมดอายุวันที่เท่าไหร่ ปกติแล้วจะหยุดเทรด 1 เดือนก่อนวันที่ประกาศหมดอายุ เช่น ประกาศว่าวันหมดอายุวันที่ 7 /03/14 ก็จะขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อหยุดเทรดวันที่ 7/02/14 ซึ่งช่วงนี้มีแต่ Warrant ขึ้นกันแบบยั่วน้ำลายสิงห์เดย์เทรด เมื่อ 2 สัปดากห์ก่อนก็มีขึ้นกันเป็น 1,400% ใครไม่กล้าก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆและอิจฉาคนที่ได้เงิน (แต่ก็อาจจะมีบางคนเสียเงินเพราะขายไม่ทัน) หุ้นที่ว่านี้คือ AMC-W1 ที่พึ่งหมดอายุไป

กราฟหุ้น AMC-W1 (ขึ้น 1,400%)
หมดอายุวันที่ 7/03/14


ถ้าตามหลักการเก็งกำไร Warrant คือ ห้ามเล่นตัวที่กำลังจะหมดอายุเพราะราคาก็จะลดลงเรื่อยๆ ซึ่งจะต่ำที่สุด คือ 0.01 ถ้าจะเก็งกำไร Warrant นั้นควรดูวันที่หมดอายุ 1-3 ปีข้างหน้าหรือวันหมดอายุที่ยิ่งไกลยิ่งดี แต่ก็มีหุ้นไม่กี่ตัวที่เล่นราคากันจนหยดสุดท้าย(ขอแนะนำไม่ให้เล่นหุ้นแบบนี้เพราะอาจจะเจ็บตัวได้)

น้องที่ทำงานเรียกให้ดูหุ้นตัวนี้ในวันที่ขึ้นเป็น 1,400% นั่นแหละ ราคาที่เห็นครั้งแรกที่ 0.08 บาทก็เลยเปิดกราฟดูว่าราคาเปิดที่ 0.03 เล่นราคากันจนถึง 0.46 บาท แล้วลงมาปิดที่ .028 เราเห็นแล้วหวาดเสียวแทนว่าถ้าขายไม่ทันก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP แล้วจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าหลังจากวันขึ้น SP ก็มีสองวิธีให้นักลงทุนเลือก คือ จะใช้สิทธิ์ก็เสียเงินเพื่อซื้อหุ้นแม่ คือ  AMC หรือไม่ใ้ช้สิทธิ์ Warrant ก็ปล่อยให้เงินตรงนั้นเป็นศูนย์

==> ศึกษานิสัยของหุ้นเก็งกำไร

หุ้นแต่ละตัวก็มีนิสัยเหมือนคนเรานั่นแหละ
  • บางตัวจำศีลนานมาก(sideway เป็นช่วงเวลาเก็บหุ้น) แต่บทจะมาก็ขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 วันถึงจะเลิกเล่น 
  • บางตัวอาจจะมา 1-2 วันแล้วพักแป๊บนึงแล้วจะมาแรงๆอีกครั้ง 
  • บางตัวแนวโหดลากขึ้น ตบลง แล้วก็ลากขึ้น ตบลงอีกครั้ง 
ซึ่งนิสัยของหุ้นก็อยู่ในรูปแบบกราฟ การที่เราดูกราฟเพื่อศึกษาหุ้นเก็งกำไรควรรู้ไว้สักนิดว่า กราฟก็เหมือนภาพวาดจะออกมาเป็นรูปแบบใดก็ขึ้นอยู่กับคนวาดว่ามีลักษณะนิสัยอย่างไร

กราฟ NMG-W3 (ช่วงเก็บหุ้น)
หมดอายุวันที่ 19/06/18


ถ้าเราไม่อยากเหนื่อยจากการตามหุ้นที่วิ่งไปแล้วก็หันมามองตัวที่อยู่นิ่งๆแล้วรอมันวิ่งน่าจะอุ่นใจกว่า จากการที่ช่วงนี้เห็น Warrant วิ่งกันสนุกสนานก็ออกตามหาตัวที่ยังนิ่งๆอยู่ก็เจอตัวนี้ NMG-W3 ที่ sideway มานานละ MACD ก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนWarrant หลายตัววิ่งไปไกลจนเราไม่กล้าวิ่งตามก็อาจจะดูหุ้นที่มีลักษณะ sideway แบบนี้ก็ได้ อาจจะคาดหวังแค่ 0.51 หรือ 0.63 ที่เป็นแนวต้านสีเขียว( เส้น 75 วัน)กับสีแดง(เส้น 200 วัน) แต่ก็แอบหวังไปที่แนวต้านเดิมที่ 0.80 ก็อิ่มกันหละทีนี้ ประเด็น คือ เราจะประมาทไม่ได้ถ้าหุ้น sideway หลุดลงมาก็ควรตั้งจุดคัทไว้ด้วยว่ากี่ % คัททิ้ง ส่วนตัวมองว่าถ้าต่ำกว่า 0.42 ก็คัทเพราะหลุดกรอบ BB กรอบบนแล้วไม่น่าจะสนุกแล้วหละ

กราฟหุ้น TASCO-W3 (ที่ไม่ควรนับ 3)
หมดอายุวันที่ 17/04/14


โปรดสังเกตว่าหุ้นที่เก็งกำไรจะมีการ sideway มานานมากกว่าที่จะเล่นแรงๆสักครั้ง ประเด็น คือ ตอนที่ sideway นานๆเราจะทนไหวรึเปล่า เราเห็นว่าราคาเคยไปถึง 20 บาท ยังคิดอยูว่าตอนนี้จะขายไปหมดรึยัง ถ้าไม่คัทไปก่อนหน้านี้ก็คงเสียหายมากมาย ช่วงที่ผ่านมามีการเก็งกำไรจากราคา 0.45 ถึง 7.95 บาทแหนะ ดังนั้นถ้าเราอยากตื่นเต้นก็เลือกตัวที่พึ่งขึ้นวันแรกแล้วซื้อตาม ได้กำไรไม่กี่ช่องก็ขายออก ไม่ควรถือไว้นาน แต่อาจจะมีอารมณ์ว่าไม่น่าขายหมูไปก่อนเลยถ้าถืออีกนิดก็จะได้เงินเยอะกว่านี้ แล้วก็จัดการซื้อแบบนี้อีก 1-2 รอบก็พออย่านับถึง 3 เพราะโอกาสติดหุ้นมีสูงมาก เช่น รอบแรกซื้อที่ 3 ขายที่ 3.5 ก็ติดใจก็เลยซื้อรอบที่สองที่ 4 ขาย 4.5 แล้วรอบสุดท้ายก็ซื้อที่ 7เพราะคิดว่าจะไปต่อเหวี่ยงลงแป๊บเดียวคงไม่เป็นไรหรอก สุดท้ายก็เข้าสู่วงจรติดหุ้นปั่นที่ใกล้หมดอายุ แล้วดูราคาช่วงนี้ซิอย่างเหนื่อยเลย 1.10 คนที่มี 7 บาทน่าจะอาเจียนเป็นเลือดไปแล้วหละ

กราฟ FOCUS-W1(หุ้นขาโหด)
หมดอายุวันที่ 15/06/14


เห็นกราฟน่ากลัวแบบนี้ การวิ่งขึ้นลงภายในวันมันน่ากลัวกว่านั้น ซึ่งมีทั้งเขียว เหลือง แดง ภายในวันเดียว จำได้ว่าตอนที่ถูกดึงราคาขึ้นไปสูงๆแล้วถูกทุบลงมา ช่อง Bid หายไปหลายช่องเหมือนว่าแย่งกันขายทุกราคาก็จะยิ่งทำให้ราคาลงเร็วกว่าเดิม อะนะ!! การลงทุนจริงหรือนี่ เฮ้อออออ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวที่เป็นบางส่วนของประสบการณ์ ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับในแบบที่แตกต่างกันไป เขียนขึ้นเพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง



บทความน่าสนใจ

วิธีเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร ตอนที่ 2 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น