แต่ในความเป็นจริงแล้วมีหลายเหตุผลที่เราต้องออมเงิน เช่น
- ออมเงินเพื่อซื้อรถ
- ออม เงินเพื่อซื้อบ้าน
- ออม เงินเพื่อการศึกษาบุตร
- ออม เงินเพื่อแต่งงาน
- ออมเงินเพื่อลงทุนในธุรกิจส่วนตัว
- ออม เงินเพื่อบริจาคให้การกุศล
- ออม เงินเพื่อการท่องเที่ยว
- ออมเงินเพื่อเป็นมรดก ฯลฯ
การออมเงินเพื่อให้บรรลุในแต่ละเป้าหมายนั้นก็มีระยะเวลาที่ต้องใช้เงินแตกต่างกัน
ซึ่งมีทั้งเป้าหมายระยะสั้นคือ ภายใน 3 ปี ระยะกลางคือภายใน 5 ปี และระยะยาวมากกว่า 7 ปี
แต่จะทำอย่างไรหละที่จะทำให้เงินออมนั้นไปถึงเป้าหมายตามระยะเวลาและจำนวนเงินที่ตั้งเป้าไว้
การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ....คือ คำตอบค่ะ
ทั้งนี้ การลงทุนนั้นจะต้องดูที่ผลตอบแทนและระดับความเสี่ยง
ซึ่งเรียงลำดับผลตอบแทนและความเสี่ยงต่ำ ไปผลตอบแทนและความเสี่ยงสูง ดังนี้ค่ะ
- ตราสารภาครัฐ
- เงินฝาก
- หุ้นกู้
- หุ้นบุริมสิทธิ์
- หุ้นกู้แปลงสภาพ
- กองทุนรวม
- หุ้นสามัญ
- อสังหาริมทรัพย์
- ออปชั่น
- ฟิวเจอร์
การลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทก็ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนว่าต้องการได้รับผลตอบแทนแบบใด
เงินฝาก
มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ี่ยงต่ำ ดอกเบี้ยถูก ซึ่งต้องคงไว้เพื่อไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และกันไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
ประเภทตราสารหนี้
ในยุคดอกเบี้ยถูก นักลงทุนจะไม่ค่อยฝากเงินเพราะดอกเบี้ยจะถูกมาก ภาวะแบบนี้บริษัทเอกชนหลายแห่งจะออกหุ้นกู้ออกมาเยอะเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนไปใช้ขยายกิจการ นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอก็สามารถเลือกลงทุนในตราสารหนี้ได้ ทั้งนี้ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้ออก
ประเภทตราสารทุน
สินทรัพย์นี้จะเติบโตมากช่วงเศรษฐกิจอยู่ในภาวะฟื้นตัวและเริ่มดีขึ้น ซึ่งหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ ก็จะมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง ให้ผลตอบแทนสูงและมีความเสีี่ยงสูงด้วยเช่นกัน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการให้เงินลงทุนเติบโต
ประเภทตราสารอนุพันธ์
สินทรัพย์ประเภทนี้จะมีไว้ป้องกันความเสี่ยง(แต่ภาวะปัจจุบันค่อนข้างใช้เก็งกำไร) ฟิวเจอร์ ออปชั่น มีผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงสูงมากเหมาะแก่นักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงมาก
หลักการเลือกประเภทของการลงทุนขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการลงทุน
เงินฝาก
มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ี่ยงต่ำ ดอกเบี้ยถูก ซึ่งต้องคงไว้เพื่อไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และกันไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
ประเภทตราสารหนี้
ในยุคดอกเบี้ยถูก นักลงทุนจะไม่ค่อยฝากเงินเพราะดอกเบี้ยจะถูกมาก ภาวะแบบนี้บริษัทเอกชนหลายแห่งจะออกหุ้นกู้ออกมาเยอะเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนไปใช้ขยายกิจการ นักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอก็สามารถเลือกลงทุนในตราสารหนี้ได้ ทั้งนี้ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้ออก
ประเภทตราสารทุน
สินทรัพย์นี้จะเติบโตมากช่วงเศรษฐกิจอยู่ในภาวะฟื้นตัวและเริ่มดีขึ้น ซึ่งหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ ก็จะมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง ให้ผลตอบแทนสูงและมีความเสีี่ยงสูงด้วยเช่นกัน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการให้เงินลงทุนเติบโต
ประเภทตราสารอนุพันธ์
สินทรัพย์ประเภทนี้จะมีไว้ป้องกันความเสี่ยง(แต่ภาวะปัจจุบันค่อนข้างใช้เก็งกำไร) ฟิวเจอร์ ออปชั่น มีผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงสูงมากเหมาะแก่นักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงมาก
หลักการเลือกประเภทของการลงทุนขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการลงทุน
ถ้าเป้าหมายระยะสั้นก็จะต้องลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด
เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชนเกรด A เป็นต้น เพราะได้เงินต้นและผลตอบแทนที่แน่นอน สม่ำเสมอ
ส่วนเป้าหมายในระยะกลางและยาวนั้นก็ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงปานกลางและสูงขึ้น
การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เช่น ของสะสม ภาพวาด เครื่องประดับเพชร ทอง พระเครื่อง
ธนบัตรต่างประเทศในเงินสกุลหลักของโลก เช่น เงินดอลลาร์ เงินเยน เงินฟรังค์สวิส เป็นต้น
การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เช่น ของสะสม ภาพวาด เครื่องประดับเพชร ทอง พระเครื่อง
ธนบัตรต่างประเทศในเงินสกุลหลักของโลก เช่น เงินดอลลาร์ เงินเยน เงินฟรังค์สวิส เป็นต้น
"ห้ามใจร้อนที่จะลงทุนโดยไม่ีศึกษาหรือมีความรู้ก่อนการลงทุน
มิฉะนั้นแล้วเงินออมที่เก็บมานั้นอาจจะสูญหายในพริบตา"
ดังนั้น เราควรต้องศึกษาความรู้เรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆก่อนการลงทุน
เพราะผลิตภัณฑ์ทางการเงินในแต่ละรูปแบบก็เปรียบเสมือนดินที่จะปลูกเงินออมของเราให้งอกเงย
เหมือนกับการปลูกข้าวต้องปลูกที่ดินเหนียวถึงจะเติบโต ได้เมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ น่ารับประทาน
แต่ถ้าเรานำข้าวไปปลูกในดินทรายก็มีแต่เปลืองเมล็ดพันธุ์และเสียเวลา
เราเริ่มศึกษาได้จากเว็ปต่างๆเพราะมีความรู้ให้เราเข้าไปศึกษา "ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น"
แต่สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จะเริ่มที่ไหน ขออนุญาตแนะนำเว็ปนี้ค่ะ
เป็นเว็ปของตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ความรู้เรื่องการลงทุน สมัครเป็นสมาชิกฟรีค่ะ
ลักษณะการให้ความรู้เป็น E-Learning ที่สามารถโหลดดูได้ทางอินเตอร์เน็ต
หลักสูตรที่ให้ความรู้การลงทุนเบื้องต้นอธิบายเป็น Animation ด้วยการ์ตูนน่ารักๆ
พอดูจบแล้วก็จะมีแบบทดสอบความรู้เบื้องต้นว่าเรามีความเข้าใจกับเรื่องนั้นๆอย่างไรบ้าง
การอธิบายด้วยการ์ตูนนั้นจะทำให้บทเรียนยากๆมันง่ายขึ้นมาก แถมไม่น่าเบื่ออีกด้วยค่ะ
ลองเข้าไปดูนะค่ะ ก็จะรู้ว่าเราจะให้เงินไปทำงานในการลงทุนแบบไหนได้บ้าง
"เสียเวลาลับขวานให้คม แล้วเราจะใช้แรงน้อยลงในการตัดไม้" ^_^ //
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น