วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ควรเก็บเงินสดไว้เท่าไหร่....ถ้าต้องตกงาน!!







คำว่า "ตกงาน" อาจจะฟังดูแล้วรุนแรงเกินไป แต่ถ้าวันนั้นมาถึงเราก็ต้องยอมรับความจริง

ไม่ใช่แค่มนุษย์เงินเดือนเท่านั้นที่ต้องระวัง ผู้เป็นเจ้าของกิจการก็ต้องพึงระวังไว้

เพราะเมื่อเกิดวิกฤตอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องมีคนได้โอกาสและเสียโอกาสจากวิกฤตนั้นเสมอ

เช่น การเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท หรือว่าการเปิด AEC

คนที่ไม่ปรับตัวก็อาจจะได้รับผลกระทบเป็นเรื่องธรรมดา เราก็แค่เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า


จากข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับก็เริ่มเห็นข่าวการปรับลดพนักงานกันบ้าง

ส่วนใหญ่แล้วจะมีสาเหตุมาจากต้องการลดค่าใช้จ่าย หรือตัวอย่างที่เห็นชัดๆก็เป็นนโยบายรัดเข็มขัด

ของกรีซ ซึ่งจะทำให้ประชาชนชาวกรีซต้องกรี๊ดสลบจากการที่ต้องถูกตัดเงินบำนาญและเงินเดือน

ลงถึง 40% การปลดพนักงาน การเก็บภาษีเพิ่ม และอาจจะมีเพิ่มเติมถ้าต้องการปรับลดค่าใช้จ่ายลง

ปัญหาของกรีซเกิดมาจากหนี้สินในส่วนของภาครัฐ ที่บำเรอประชาชนด้วยนโยบายประชานิยม

มากเกินไป อีกทั้งปัญหาคอรัปชั่นอีกด้วย ซึ่งต่างจากสเปนที่ปัญหาเกิดจากภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่ฟองสบู่แตกและส่งผลให้ภาคธนาคารขาดสภาพคล่อง แม้ว่าที่มาของปัญหาแตกต่างกัน

แต่ก็มีอย่างนึงที่เหมือนกัน คือ มีคนตกงาน ( # _ # )


บางคนคิดว่าเกิดวิกฤตในยุโรปแล้วมาเกี่ยวอะไรกับเราด้วยหละ

อาจจะเกี่ยวกับเราไม่ทางตรงก็ทางอ้อมนะค่ะ ถ้ากิจการไหนส่งออกให้ยุโรปเป็นลูกค้าหลัก

ก็จะได้รับผลกระทบมากหน่อย ถ้าลูกค้าไม่ซื้อของก็อาจจะทำให้กิจการนั้นขาดรายได้

ส่งผลถึงผู้ที่ส่งวัตถุดิบให้กิจการก็ไม่ได้รับรายได้เช่นกัน

ถ้าไม่หาลูกค้าเพิ่มก็อาจจะปรับลดค่าใช้จ่ายรวมถึงปรับลดพนักงาน

คล้ายๆกับประโยคที่ว่า "เด็ดดอกไม้สะเทื่อนถึงดวงดาว"

ถ้าสมมติเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับเราหละ

เราควรจะมีเงินสดเท่าไร่เพื่อให้เราอยู่ได้ในช่วงตกงาน??

หรือเราจะต้องมีเงินสดเท่าไหร่ระหว่างรองานใหม่ ??

คำตอบ คือ การออมเงิน

เราจะต้องมีเงินออมเพื่อรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอในช่วงเวลาวิกฤตนั้นๆ

----------------------------------------------------------------------------------------------------

สาเหตุการมีเงินออมเพื่อรักษาสภาพคล่อง ดังนี้ค่ะ

1. เงินสดไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประำจำวัน คือ เป็นเงินที่ใช้รับประทานอาหาร ซื้อสินค้าหรือบริการ

ที่ต้องใช้เงินสดซึ่งประมาณ 1-2 สัปดาห์ของค่าใช้จ่ายปกติ

2. เงินสดใช้ในยามฉุกเฉิน คือ เงินสดที่กันไว้ยามเจ็บป่วย ภาวะตกงาน ภาวะรองานใหม่

ซึ่งประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน

3. เงินออมเพื่อการลงทุน คือ เงินที่เก็บไว้เพื่อซื้อทรัพย์สินค้าราคาสูงเช่น บ้าน รถยนต์

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีคำนวณ

ถ้านาย ก มีรายจ่ายวันละ 250 บาท ดังนั้น

== >นาย ก จะต้องเงินสดไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประำจำวันจำนวนกี่บาท

                   250 x 7  = 1,750 ;  250 x 14 = 3,500

สรุป นาย ก ต้องมีเงินสดขั้นต่ำสำรองไว้จำนวน 1,750 - 3,500 บาท


==> นาย ก จะต้องมีเงินสดไว้ใช้ในยามฉุกเฉินกี่บาท

                   250 x 30 x 3 = 22,500  ;  250 x 30 x 6 = 45,000 บาท

สรุป นาย ก ต้องมีเงินออมทรัพย์สำรองไว้ 22,500 - 45,000 บาท

------------------------------------------------------------------------------------------------------

การคำนวนนั้นไม่ยากแค่นำตัวเลขรายจ่ายต่อวันมาใส่

แต่ว่าเราจะรู้รายจ่ายของเราเท่าไหร่นั้น อย่าประมาณคร่าวๆเลยค่ะ อาจจะไม่ค่อยตรงกับความจริง

ให้เป็นการจดบันทึกดีกว่า เพราะจะได้ตัวเลขที่ตรงมากกว่า

อาจจะจดรายรับรายจ่ายเป็นรูปแบบ Excel ได้ตามหัวข้อ " หารอยรั่วจากการจดบันทึก"

ตามลิ้งค์นี้ค่ะ http://pajareep.blogspot.com/2012/05/blog-post_13.html

ที่สำคัญกว่านั้นคือ การมีวินัยทางการเงิน ใช้เท่าที่มีแค่นี้ก็พอเพียงแล้วค่ะ



บทความน่าสนใจ


แบ่งเงินออมมาเก็บดอลล่าร์กันดีกว่า
==> http://pajareep.blogspot.com/2013/03/blog-post_25.html


ซื้อผ่อนหรือเช่า อันไหนดีกว่ากัน
==> http://pajareep.blogspot.com/2013/01/blog-post.html


ขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี ต้องมีแผนทางการเงิน
==> http://pajareep.blogspot.com/2012/11/blog-post_29.html


การพนัน คือ การวางเดิมพันอนาคต
==> http://pajareep.blogspot.com/2012/11/blog-post_12.html


คนล้มละลาย เศรษฐกิจก็ล้มละลาย
==> http://pajareep.blogspot.com/2012/10/blog-post.html







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น