วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

ซื้อผ่อนหรือเช่า อันไหนดีกว่ากัน

อันนี้ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ ปกติแล้วไม่เคยติดรายการร้องเพลงอะไรเลยจนมาเจอ The voice เก่ง ธชย ทำให้เรารู้สึกว่า "ไร้ขีดจำกัด" มันคืออะไร ทำให้เรามีพลังและเชื่อในสิ่งที่เราทำ ชอบทุกการแสดงของเค้าจริงๆ ขอบอกว่า สุดยอดดดดดด



============================================================


ความต้องการใช้เงินมีไม่จำกัด แต่เงินของเรามีจำกัด ดังนั้นควรเลือกให้ดีว่าจะใช้เงินอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้คุ้มกับความเหนื่อยยากทีุ่อุตสาห์ไปหามา ดังนั้นการที่เราจะตัดสินใจซื้ออะไรแต่ละอย่างก็ต้องคิดให้ดีก่อนซื้อ ก็เลยเกิดเป็นคำถามในใจว่า จะเลือกอะไรดีระหว่างซื้อหรือเช่า?? ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความพร้อมทางการเงินของแต่ละคน

การซื้อ โดยเงินผ่อน(การกู้ยืม)จะทำให้เรากลายเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ เรามีอำนาจที่จะทำอะไรกับสินทรัพย์นั้นๆก็ได้ ถ้าเป็นการกู้ยืมมาซื้อนั้นก็จะมีการวางเงินดาวน์ และมีการผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ โดยที่เราจะต้องจ่ายค่าดูแล บำรุงรักษา ค่าประกันภัยเอง

การเช่า เราจะไม่มีความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์นั้นๆ ไม่ต้องวางเงินดาวน์ เราจ่ายแต่เพียงค่าเช่าซึ่งได้รวมค่าใช้จ่ายทางด้านต่างๆไว้หมดแล้ว

วิธีตัดสินใจเลือกระหว่าง ซื้อผ่อน หรือ เช่า(โดยแต่ละสถานการณ์ให้ปัจจัยอื่นๆคงที่)

1. อัตราเงินเฟ้อ ==> ควรซื้อผ่อน มากกว่า การเช่า

เงินเฟ้อทำให้เงินของเรามีค่าน้อยลง ถ้าคิดง่ายๆก็ดูที่ราคาก๋วยเตี๋ยวที่เรากินตอนนี้กับสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็ได้ ราคาเปลี่ยนแปลงไปมากมาย จากชามละ 15 มาเป็นชามละ 40 บาท (#_#)!! ถ้ามองความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อแล้วเราควรจะซื้อมากกว่าการเช่า เพราะราคาสินทรัพย์นั้นปรับตามเงินเฟ้อ ยิ่งนานวันราคาสินทรัพย์ก็จะแพงขึ้นตามเงินเฟ้อ ถ้าเราเลือกวิธีเช่าก็จะทำให้เราจ่ายค่าเช่าที่สูงขึ้น ยิ่งเงินเฟ้อมากขึ้นเท่าไหร่ค่าเช่าก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้นควรตัดสินใจซื้อเพื่อเป็นการป้องกันเงินเฟ้อ มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถ้าใครเช่าหรือมีเพื่อนที่เช่าหอพัก พอราคาสินค้าในตลาดแพงขึ้น(เงินเฟ้อ) ก็มักจะปรับราคาค่าเช่าห้องพักให้สูงขึ้น เจ้าของหอพักก็จะได้รับค่าเช่าที่เติบโตตามเงินเ้ฟ้อ ส่วนคนเช่าก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น บางครั้งราคาเพิ่มเร็วกว่าเงินเฟ้อซะอีก 

2. อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ==> ควรเช่า มากกว่า การซื้อผ่อน

เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงก็จะทำให้คนที่ซื้อบ้านหรือรถยนต์มีต้นทุนในการกู้ยืมที่สูงขึ้น ทำให้มีภาระที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนสูงขึ้นไปด้วย ควรรอให้อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงมาก่อนแล้วค่อยมาตัดสินใจซื้อเพราะจะทำให้มีภาระการผ่อนชำระลดลง ระหว่างที่รอก็เช่าสินทรัพย์แทนการซื้อเพื่อรอดอกเบี้ยปรับตัวลง

3. อัตราดอกเบี้ยต่ำ ==> ควรซื้อผ่อน มากกว่า การเช่า

เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของผู้กู้นั้นต่ำลงไปด้วย ควรตัดสินใจซื้อแทนการเช่า เพราะจะทำให้เรามีภาระการผ่อนชำระต่อเดือนต่ำ

4. ราคามูลค่าซากสูง ==> ควรซื้อผ่อน มากกว่า การเช่า

ถ้าราคาสินทรัพย์ที่เรามีนั้นมีราคาขายต่อในราคาที่สูงก็ควรซื้อมากกว่าการเช่า (มูลค่าซาก คือ จำนวนเงินที่เราคาดว่าจะได้รับเมื่อสินทรัพย์นั้นหมดอายุการใช้งาน) เพราะการซื้อและการเช่ามันแตกต่างที่ความเป็นเจ้าของ ถ้าเราเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าขายต่อที่สูงย่อมดีกว่าการเช่า 

5. การจ่ายค่าปรับเมื่อมีการชำรุดเสียหาย ==> ควรซื้อผ่อน มากกว่า การเช่า

การซื้อทำให้เราเป็นเจ้าของจะมีแต่ค่าซ่อมบำรุงไม่มีค่าปรับในกรณีที่สินทรัพย์เกิดความเสียหาย แต่ถ้าเป็นการเช่านั้นแม้ว่าจะจ่ายค่าเช่าที่รวมค่าใช้จ่ายโดยอ้อมไว้ทั้งหมดแล้ว บางครั้งอาจจะต้องเสียค่าปรับเพิ่มในกรณีที่สินทรัพย์เกิดความเสียหายอีกด้วย

การพิจารณาว่าควรซื้อผ่อนหรือเช่านั้นไม่สามารถฟันธงได้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ข้อใดข้อหนึ่งก็ควรใช้วิธีตามนั้น ต้องดูให้เหมาะกับแต่ละบุคคลด้วย เช่น บางคนได้รับหน้าที่ไปทำงานต่างจังหวัด 1-2 เดือน แล้วก็ต้องย้ายไปทำจังหวัดอื่นๆต่อไป การเลือกที่อยู่อาศัยนั้นสำคัญ แม้ว่าตอนนั้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดจะต่ำ(ตามหลักแล้วควรซื้อผ่อนมากกว่าการเช่า)  ถ้าถูกย้ายให้ไปทำงานสัก 5 จังหวัด แล้วซื้อบ้านไปทุกจังหวัดก็คงไม่ไหว ดังนั้น ควรเลือกวิธีการเช่าบ้านมากกว่าการซื้อผ่อนเพราะลักษณะงานจะต้องเดินทางบ่อยๆ 


"รู้วิธีหาเงิน ก็ควรรู้วิธีใช้เงิน"



บทความน่าสนใจ 

บัตรเครดิตที่เราต้องรู้
 ==> http://pajareep.blogspot.com/2013/07/blog-post.html


แหล่งเก็บเงินที่ปลอดภัยนั้นไม่มีจริง!!
==> http://pajareep.blogspot.com/2013_04_01_archive.html

การเงินส่วนบุคคล ตอน การวิเคราะห์หนี้สิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น