วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิธีปลูกต้นไม้การลงทุนตั้งแต่เด็กทำได้อย่างไร


ถ้าพูดถึงการลงทุนคุณจะคิดถึงอะไร ??

แน่นอนต้องมีคำว่า "เงิน" ผุดขึ้นมาเป็นคำแรกๆ เพราะชีวิตทุกวันนี้ก็จะคิดแต่ว่า เรียนจบก็ต้องทำงาน จะต้องทำมาหาเงินยังไง จ่ายเงินอย่างไรให้ประหยัดที่สุด มีหนี้ที่ต้องชำระแล้วจะหาที่ไหนมาจ่าย จะเอาเงินไปลงทุนอย่างไรให้เงินงอกเงย ให้เงินทำงานอย่างไร ออมเงินไว้ในธนาคารเท่าไหร่ดี ไปซื้อกองทุนรวม ซื้อพันธบัตร ลงทุนหุ้นตอนนี้ดีไหม ซื้อทองคำดีรึเปล่า จะเล่น TFEX เพื่อป้องกันความเสี่ยง(หรือเสี่ยงมากขึ้น)ของพอร์ตการลงทุนดีรึเปล่า แล้วอีกสาระพัดเรื่องการเงิน เงิน เงิน......เงินที่เราใช้ในการดำรงชีพก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนทั้งแรงกายและแรงใจหามาเช่นกัน และเงินคำเดียวกันนี่แหละก็สามารถเป็นจอบที่ขุดให้เราลงหลุมแห่งความสะดวกสบายด้วยเช่นกัน ในกรณีนี้จะกล่าวถึงความสะดวกสบายในการเลี้ยงดูบุตรหลานของคุณ ก็ลองเปรียบเทียบวิวัฒนาการของเล่นของเด็กตั้งแต่พึ่งพาธรรมชาติจนถึงเจริญถึงขั้นรู้จักแต่เทคโนโลยี

เด็กสมัยนี้เก่งเทคโนโลยีตั้งแต่อยู่ประถม ผู้ปกครองต้องนำไอแพดใส่พานให้ลูกเพื่อให้ลูกขยันเรียน เล่น Facebook เล่นเกมส์ออนไลน์ อัพยูทูปกันอย่างสนุกสนาน ไม่ใช่ว่าเรื่องพวกนี้ไม่ดีนะค่ะ มันจะดีถ้าให้ใช้แต่พอดี  ถ้าอยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปความมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างขาดหายไป ซึ่งคุณอาจจะเคยไปทานข้าวกับเพื่อนที่ันั่งเล่นมือถือกันหมดโดยไม่สนใจคุยกันบนโต๊ะทานข้าวเลย มัวแต่คุยกับคนอื่นทาง WhatsApp , Line ... แล้วคุณจะไปทานข้าวด้วยกันเพื่ออะไร!!




เด็ก คือ ต้นไม้แห่งการเีรียนรู้ เราควรช่วยกันลงทุนในต้นไม้ต้นนี้ให้เติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่งต่อสู้กับคลื่นลมของทุนนิยมได้ ก็ต้องช่วยกันปลูกฝังสิ่งดีๆลงไปโดยให้มีความสมดุลทั้ง IQ และ EQ เพื่อความยั่งยืนของสังคม บางอย่างต้องอาศัยระยะเวลาและจิตวิทยาในการสั่งสอน ขอขอบคุณวีดีโอทั้ง 3 ตอนนี้มาจากรายการพลเมืองเด็ก ตอน ดูแลตายายบ้านบางแค ออกอากาศช่วงเดือนกันยายน 2551 ถ้าคุณดูจบแล้วนอกจากได้เสียงหัวเราะจากแนวคิดเด็กๆและจะได้แง่มุมในชีวิตหลายๆอย่างอีกด้วย เช่น

ตัวคุณจะรู้ว่าทำไมคุณต้องออมเงินเพื่อวัยเกษียณอายุ เพราะคุณสามารถเลืือกที่จะมีชีวิตในวัยนั้นได้ตั้งแต่ตอนที่คุณมีแรงในการทำงานเก็บเงิน ถ้ามีลูกหลานเลี้ยงดูก็โชคดี แต่ถ้าไม่มีหละจะทำอย่างไร วิถีชีวิตในบ้านบางแคเป็นมุมหนึ่งของสังคมที่เราต้องเข้าไปเรียนรู้ นอกจากนี้ยังได้แนวคิดในการสอนเด็กโดยการให้ประสบการณ์เป็นตัวสร้างการจดจำในการเรียนรู้ได้อีกด้วย

ลูกหลานของคุณจะได้รับรู้ถึงการเสียสละโดยการช่วยเหลือผู้อื่น ขัดเกลาจิตใจให้มีความอ่อนโยน รู้จักสร้างความสัมพันธ์ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความอดทน การดูแลคนชรานั้นทำให้เด็กรู้จักวัฏจักรของชีวิตได้โดยไม่ต้องท่องจำจากในตำราว่าคนเรา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นอย่างไร เมื่อเค้าเห็นวิถีชีวิตแบบนี้ก็ทำให้สอนเรื่องการลงทุนง่ายขึ้น เช่น สอนว่าต้องหยอดเงินใส่กระปุกเพราะอะไร ทำไมห้ามใช้ของฟุ่มเฟือย และเค้าอาจจะเริ่มวางแผนเกษียณตั้งแต่ยังเรียนไม่จบก็ได้นะค่ะ

วีดีโอนี้จะดูสนุกขึ้นถ้าคุณให้ลูกๆของคุณมาร่วมดูด้วยกันค่ะ

ตอนที่ 1 เป็นตอนที่พิธีกรนำน้องรุจ(เด็กชายอายุ 11 ขวบ) และน้องแพร (เด็กหญิงอายุ 10 ขวบ) เข้ามาบำเพ็ญประโยชน์ที่บ้านบางแคเป็นเวลา 3 วัน โดยการเป็นผู้ช่วยพี่เลี้ยงดูแลคนชรา ต้องมาดูว่าน้องรุจซึ่งเป็นเด็กที่เรียนเก่ง อยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ทำทุกอย่างให้ทั้งหมด ทำงานบ้านไม่ค่อยเป็น เมื่อฟังพี่เลี้ยงเล่าว่าต้องทำอะไรบ้างก็เกิดความเครียด แล้วน้องรุจทำอย่างไรถึงผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ส่วนน้องแพรมีวิธีการทำอย่างไรให้สนิทกับคนชราได้เพียงไม่กี่นาที เราต้องมาติดตามการแก้ปัญหาของเด็กๆกันค่ะ







ตอนที่ 2 เป็นภาระกิจที่น้องรุจกับน้องแพรไม่เคยทำมาก่อนเลย คือ การซักผ้า อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่คือซักผ้าที่เต็มไปด้วยอุจจาระและปัสสาวะของคุณตาคุณยาย(แค่นึกก็ขนลุกแล้ว) แต่สำหรับคนที่ไม่เคยทำมาก่อนนั้นคิดอย่างไรถึงตั้งใจทำจนสำเร็จได้ โดยไม่รู้สึกรังเกียจ ต้องมาดูแรงจูงใจของน้องๆค่ะ ว่าเกิดจากอะไรค่ะ








ตอนที่ 3 วันสุดท้ายของภาระกิจก็คือ ทำกิจกรรมสร้างความสุขให้กับคุณตาคุณยาย น้องรุจกับน้องแพรสร้างความประทับใจให้คุณตาคุณยายโดยการแสดงง่ายๆที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนชราได้ไม่น้อย อีกทั้งยังมีเสียงร้องเพลงใสๆของน้องแพรที่ทำใ้ห้คุณตาคุณยายเต้นจนลืมแก่ได้เลยทีเดียว คราบน้ำตาของความสุขจะทำให้ทุกคนประทับใจไม่รู้ลืมเลยค่ะ












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น